NAD+ IV Therapy วิตามินบำรุงเซลล์ในร่างกาย
"นิโคตินาไมด์ อะดีนีน ไดนิวคลีโอไทด์ (NAD+) เป็นโมเลกุลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่มีอยู่ในทุกเซลล์ในร่างกายของเรา NAD+ มีบทบาทสำคัญในการรักษาการทำงานของสมอง การควบคุมระบบประสาท การเผาผลาญ และความสามารถของร่างกายในการซ่อมแซมความเสียหาย ในขณะที่เราอายุมากขึ้น ระดับ NAD+ จะลดลงตามธรรมชาติทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง
ความสำคัญของ NAD+  ในร่างกาย
1) ควนคุมพันธุกรรมของเซลล์ให้เป็นปกติ
ความเสียหายของพันธุกรรมของเซลล์เกิดขึ้นเนื่องจากการกระตุ้นจากภายในหรือภายนอกกังนั้นจีโนมที่ผิดปกติจึงเกิดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้พัฒนาไปเป็นมะเร็งและอัตราการแก่ของเซลล์ที่เพิ่มขึ้น มีกระบวนการในร่างกายที่เรียกว่าการตอบสนองต่อความเสียหายของดีเอ็นเอ (DDR) 
DDR เป็นกระบวนการที่ตรวจจับและซ่อมแซม DNA ที่เสียหายในร่างกาย DDR เป็นกระบวนการที่ต้องพึ่งพา NAD+ อย่างมาก เมื่อปริมาณ NAD+ ในร่างกายต่ำ กระบวนการ DDR จะบกพร่อง ส่งผลให้ DNA ของเซลล์เสียหายมากขึ้น
2) การแสดงออกทางพันธุกรรม
ฮิสโตนถูกแปลงสภาพโดยใช้  NAD+ การขาดระดับ NAD+ อาจรบกวนการแปลงสภาพฮิสโตน ซึ่งอาจทำให้การแสดงออกทางพันธุกรรมบกพร่อง การขาด NAD+ ยังอาจส่งผลให้การพัฒนาของอวัยวะและการเปลี่ยนแปลงของเซลล์แสดงออกผิดปกติ                                                     3) ระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบของร่างกาย
ระดับ NAD+ ในร่างกายเป็นตัวควบคุมและเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในขณะติดเชื้อ ระดับ NAD+ ที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการติดเชื้อจะเพิ่มออกซิเดทีฟฟอสโฟรีเลชั่นในแมคโครฟาจ ซึ่งทำให้สามารถต่อต้านเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้ดีขึ้น
4) การเผาผลาญพลังงาน
พลังงานทั้งหมดที่ใช้ในระบบการเผาผลาญได้มาจาก NAD+ ซึ่งเปลี่ยนโคเอนไซม์ให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง การขาด NAD+ ในร่างกายอาจส่งผลต่อกระบวนการเหล่านี้ทั้งหมดและส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานที่ร่างกายสร้างและนำไปใช้
5) นาฬิกาชีวิต
นาฬิกาชีวิต หรือที่เรียกว่านาฬิกาชีวภาพหรือจังหวะชีวิตเป็นกระบวนการภายในร่างกายที่ควบคุมวงจรการนอนหลับและตื่นในร่างกายมนุษย์ นาฬิกาชีวิตนี้ช่วยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับช่วงเวลาต่างๆ ของวันหรือฤดูกาลต่างๆ ความแม่นยำและประสิทธิภาพของนาฬิกาชีวิตส่วนหนึ่งมาจากระดับNAD+ ของเซลล์ การขาด NAD+ อาจรบกวนจังหวะการทำงานของนาฬิกาชีวิตและอาจส่งผลกระทบต่างๆ เช่น ง่วงนอนตอนกลางวัน นอนไม่หลับ ความไม่สมดุลของฮอร์โมน และอารมณ์แปรปรวน เป็นต้น 
6) การทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด
หัวใจเป็นอวัยวะที่มีการเผาผลาญมากที่สุดในร่างกายมนุษย์เพราะหัวใจเต้นอยู่ตลอดเวลา จากการศึกษาพบว่าระดับ NAD+  ที่ปกติมีความสำคัญในการรักษาระดับการเผาผลาญในขณะหัวใจทำงาน นอกจากนี้ ในกรณีที่พบความผิดปกติที่หัวใจ เช่น ภาวะขาดเลือดชั่วคราวหรือกล้ามเนื้อหัวใจตาย ระดับ NAD+  ที่ปกติจะช่วยในการฟื้นตัวจากการบาดเจ็บข้างต้น
7) การทำงานของไต
โดยทั่วไป การทำงานของไตมีแนวโน้มลดลงเมื่ออายุมากขึ้น เป็นที่สงสัยว่าระดับ NAD+ ที่ลดลงในผู้สูงอายุอาจมีบทบาทในการลดการทำงานของไต มีผลวิจัยที่ระบุว่าการป้องกันการบาดเจ็บของไตเฉียบพลันจะดีขึ้นเมื่อผู้ป่วยได้รับอาหารเสริม NAD+
8) การทำงานของตับ
ระดับ NAD+ เป็นปกติในร่างกายมีความสำคัญต่อการทำงานของตับ เอนไซม์พิเศษใน NAD+ ช่วยปกป้องตับ เช่น การเกิดพังผืดในตับ โรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ และโรคไขมันคั่งสะสมในตับ
9) การทำงานของระบบประสาท
NAD+ และสารตั้งต้นของ NAD+ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีผลปกป้องเซลล์ประสาทในสมองเกิดความผิดปกติทางระบบประสาทที่สำคัญ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง การมี NAD+ ในระดับปกติในร่างกายนั้นควบคุมการทำงานของระบบประสาทให้เป็นปกติและการอยู่รอดของเซลล์ประสาทในสมอง

 

ประโยชน์ของการบำบัดด้วย NAD+  ทางหลอดเลือดดำ
1) การบำบัดอาการเสพติด 
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดประการหนึ่งที่ทำการรักษาด้วย NAD+  ทางหลอดเลือดดำ คือช่วยจัดการอาการเสพติดในบางคน NAD+ อาจช่วยให้ผู้ป่วยที่เลิกใช้ฝิ่น แอลกอฮอล์ สารเคมี หรือสารเสพติดที่ได้รับตามใบสั่งแพทย์ นอกจากนี้ยังอาจช่วยลดความรุนแรงของอาการขาดยา แม้ว่ากลไกการทำงานของ NAD+ ในเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาแต่เชื่อกันว่า NAD+ ช่วยขับยาออกจากร่างกายและลดความอยากอาหาร
2) มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ดีขึ้น
NAD+ มีผลทั้งป้องกันและกระตุ้นสมอง ด้วยเหตุผลนี้การรักษาด้วย NAD+  ทางหลอดเลือดดำ มักถูกใช้เพื่อเพิ่มความจำ ปรับปรุงสมาธิ ปรับปรุงความสามารถในการโฟกัส ช่วยเพิ่มการงอกใหม่ของเซลล์สมอง และซ่อมแซมการทำงานของระบบประสาทโดยรวม
3) ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง
การรักษาด้วย NAD+  ทางหลอดเลือดดำถูกนำมาใช้ในการจัดการบุคคลที่มีความเหนื่อยล้าเรื้อรังและมีระดับพลังงานต่ำ NAD+ เป็นปัจจัยที่จำเป็นในวิถีไกลโคไลติกและวิถีกรดไตรคาร์บอกซิลิก วิถีเหล่านี้ส่งผลให้เกิดการผลิตอะดีโนซีนไตรฟอสเฟต (ATP) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของร่างกายมนุษย์
4) สมรรถภาพการเล่นกีฬา
เนื่องจาก NAD+ มีบทบาทในการผลิตเอทีพี นักกีฬาบางคนจึงใช้การรักษาด้วย NAD+  ทางหลอดเลือดดำเพื่อเพิ่มความสามารถและสมรรถภาพทางกีฬา การรักษาด้วย NAD+ อาจเพิ่มระดับพลังงาน ช่วย้พิ่มความรู้ความเข้าใจและเพิ่มความไวในการตอบสนองของนักกีฬาในระหว่างการแข่งขันหรือการแข่งขันกีฬาอื่นๆ นอกจากนี้ การศึกษายังแสดงให้เห็นว่าการเสริม NAD+ อาจช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อรวมทั้งซ่อมแซมกล้ามเนื้อด้วย ซึ่งนำไปสู่การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและการขยายตัวของกล้ามเนื้อ
5) การจัดการความเจ็บปวด
สาเหตุล่าสุดอีกประการหนึ่งที่ทำให้บางคนรักษาด้วย NAD+  ทางหลอดเลือดดำ คือการจัดการความเจ็บปวด เป็นที่ทราบกันดีว่า NAD+ ออกฤทธิ์ต้านการอักเสบภายในร่างกายอย่างมีนัยสำคัญ และอาจใช้เพื่อลดการอักเสบที่มักเกิดขึ้นกับความเจ็บปวดและด้วยเหตุนี้จึงช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้
6) ส่งเสริมการลดน้ำหนัก 
การรักษาด้วย NAD+  ทางหลอดเลือดดำช่วยเพิ่มระดับพลังงาน ต่อสู้กับความเหนื่อยล้า และเพิ่มการเผาผลาญของร่างกาย ดังนั้นจึงสามารถช่วยลดน้ำหนักได้                                                                                                                                             7) ผลการต่อต้านริ้วรอย
NAD+ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีฤทธิ์ในการต่อต้านริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในระดับเซลล์และระบบการทำงานของร่างกาย ด้วยการส่งเสริมการซ่อมแซม DNA และลดการอักเสบ NAD+ สามารถช่วยชะลอกระบวนการชราและลดความเสี่ยงของโรคตามวัย
8) ปรับปรุงการทำงานของภูมิคุ้มกัน
NAD+ ยังมีผลลัพธ์เพิ่มการทำงานของภูมิคุ้มกันโดยส่งเสริมการผลิตและการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน สามารถช่วยซ่อมแซมสุขภาพ ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและการเจ็บป่วยอื่นๆ กระบวนการเมตาบอลิซึมของร่างกายก็ดีขึ้น ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นด้วย

การรักษาด้วย NAD+  ทางหลอดเลือดดำเหมาะกับใคร?
- ดูแลหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรง
- ปัญหาเรื่องความจำ
- อัลไซเมอร์, โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง, พาร์กินสัน
- ความเสียหายของเซลล์ (ความผิดปกติของไมโทคอนเดรีย)
- โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง
- โรคเบาหวาน
- สุขภาพจิต (เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เครียดเรื้อรัง)
- อาการถอนจากการใช้สารเสพติด
- ต่อต้านริ้วรอย