ตรวจสุขภาพทางเดินอาหาร
ตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้
การตรวจวิเคราะห์ลำไส้และจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของคุณ บางครั้งเรียกว่าไมโครไบโอมในลำไส้หรือจุลินทรีย์ในลำไส้ การรักษาสมดุลของลำไส้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในตัวเรามีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพของเราฆ่าเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายช่วยให้สลายยาก ส่วนสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อไมโครไบโอมของเราคือความอ้วน การลดน้ำหนัก การดูดซึมสารอาหารและการย่อยอาหาร สุขภาพจิต ไมโครไบโอมในลำไส้เป็นอวัยวะที่สำคัญมากมีบทบาทสำคัญมากมายทั่วร่างกายและอยู่ในระบบต่างๆ มากมาย รวมทั้งภูมิคุ้มกันิ ระบบทางเดินอาหาร การย่อยอาหาร ระบบประสาท ฟังก์ชั่นความรู้ความเข้าใจ ไการตรวจจะทำโดยการทอสบจากอุจจาระ หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ นั่นคือสัญญาณบ่งชี้สุขภาพลำไส้ที่ไม่ค่อยดี
- ท้องอืด
- ท้องเสีย
- ปวดท้องหรือไม่สบาย
- แก๊ส
- ท้องผูก
- ความเหนื่อยล้า
- ความผันผวนของน้ำหนัก
- ปัญหาผิว - ภูมิแพ้, สิว
- ความผิดปกติของอารมณ์
- ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
- ในกรณีที่ง่วง, อ่อนล้า
- ในกรณีที่แพ้อาหาร
ตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง
ตรวจภูมิแพ้อาหารแอบแฝง (Food Intolerance Test) เมื่อร่างกายได้รับอาหารบางชนิดเข้าไป ระบบภูมิคุ้มกันของคุณสามารถตอบสนองโดยการปล่อยโปรตีนที่เรียกว่าแอนติบอดี อาหารที่ทำให้แอนติบอดีถูกปล่อยออกมาเรียกว่าแอนติเจนหรือสารก่อภูมิแพ้ แอนติบอดีสองประเภทมักถูกผลิตขึ้นเพื่อตอบสนองต่ออาหาร: IgE (อิมมูโนโกลบูลิน E) และ IgG (immunoglobulin G) การแพ้อาหารเป็นปฏิกิริยาทันทีที่เกิดจากการผลิตแอนติบอดี IgE ในขณะที่ความไวต่ออาหารเป็นปฏิกิริยาที่ล่าช้าซึ่งเกิดจากการผลิตแอนติบอดี IgG ต่ออาหารบางชนิดการทดสอบความไวต่ออาหาร IgG จะวัดระดับของแอนติบอดี IgG อาหารมากกว่า 220 ชนิด แอนติบอดีเป็นโปรตีนพิเศษที่จับกับแอนติเจนเฉพาะ อาหารทุกชนิดมีโมเลกุลของแอนติเจน และบางครั้งแอนติเจนในอาหารเหล่านี้สามารถกระตุ้นการผลิตแอนติบอดีได้ การตรวจมี 2 ประเภท 1. Food IgG 222: วัดแอนติบอดี IgG ต่อแอนติเจนในอาหาร 222 ตัว 2. การทดสอบการอักเสบในอาหาร 134 และ 44: วัดแอนติบอดี IgG และปฏิกิริยาเสริมต่อแอนติเจนของอาหารที่ทำให้เกิดการอักเสบในร่างกายถึง 134 หรือ 44 แอนติเจนในอาหาร คุณสามารถพัฒนาความไวต่ออาหารได้ทุกช่วงอายุ เนื่องจากปฏิกิริยาของอาหาร IgG ใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือเป็นวันในการพัฒนา จึงทำให้ยากที่จะระบุได้ว่าอาหารชนิดใดมีส่วนทำให้เกิดปฏิกิริยาโดยไม่ต้องทำการทดสอบ คุณควรพูดคุยกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณหากคุณมีอาการต่อไปนี้ ไข้ อ่อนเพลีย หนาวสั่น เหงื่อออกและรู้สึกอ่อนแอ บวมท มีอาการคัน แดง บวม และมีผื่นอารมณ์และความจำแปรปรวน ปัญหาพฤติกรรม โรคหลอดลมอักเสบที่เกิดจากอาหารและอาการหอบหืด
กล้ามเนื้อและกระดูก ปวดข้อ กล้ามเนื้อตึง และบวม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ปวดท้อง มีแก๊ส และท้องอืด
ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่จากอุจจาระ
มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักเป็นสาเหตุการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตอันดับสองของโลก
การตรวจคัดกรองโดยใช้การตรวจหาเลือดในอุจจาระซึ่งเป็นอาการสำคัญของเนื้องอกในลำไส้ ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งระยะเริ่มต้นหรือติ่งเนื้อชนิดอะดีโนมาตัสขนาดใหญ่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ยังสัมพันธ์กับปฏิกิริยาการอักเสบเฉียบพลันเฉพาะที่ซึ่งมองเห็นได้ ในบางกรณีการทดสอบ Quad คือ CerTest FOB+Transferrin+Calprotectin+Lactoferrin เป็นการตรวจคัดกรองที่เรียบง่าย มีความไวสูงในการค้นพบสูง
เฮโมโกลบิน (CerTest FOB) คือโปรตีนขนส่งออกซิเจนที่มีธาตุเหล็กในเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งอาจรั่วเข้าไปในระบบทางเดินอาหารและปล่อยออกมาพร้อมกับอุจจาระในโรคเลือดออกในทางเดินอาหาร
Transferrin เป็นส่วนประกอบที่ได้จากเลือดซึ่งอาจรั่วไหลเข้าไปในระบบทางเดินอาหารแล้วขับออกมาพร้อมกับอุจจาระในโรคเลือดออกในทางเดินอาหาร Transferrin มีความเสถียรในอุจจาระและเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีในการตรวจจับการสูญเสียเลือดจากลำไส้ส่วนบนและส่วนล่าง (เลือดออกในทางเดินอาหาร) Calprotectin เป็นโปรตีนไซโตซิลิกนิวโทรฟิลที่มีคุณสมบัติต้านจุลชีพ ซึ่งมีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นในอุจจาระระหว่างการอักเสบของลำไส้ Calprotectin ยับยั้งระบบเอนไซม์ที่ขึ้นกับสังกะสี ฆ่าจุลินทรีย์และกระตุ้นการตายของเซลล์ในเซลล์ปกติและเซลล์มะเร็ง แลคโตเฟอร์รินเป็นส่วนประกอบของไกลโคโปรตีนของเม็ดทุติยภูมิของนิวโทรฟิล ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของการตอบสนองต่อการอักเสบเฉียบพลันที่ปล่อยออกมาจากเม็ดเลือดขาวในอุจจาระ โปรตีนนี้ทนต่อการสลายโปรตีนในอุจจาระและอาจทำหน้าที่เป็นเครื่องหมายของการอักเสบในลำไส้ สาเหตุหลักของนิวโทรฟิลในอุจจาระในผู้ป่วยที่มีอาการท้องร่วงเรื้อรังคือโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังของลำไส้ใหญ่
ตรวจคัดกรองติดเชื้อในกระเพาะอาหาร
UNDER CONSTRUCTION
ตรวจภาวะลำไส้รั่ว
การทดสอบการซึมผ่านของลำไส้ หรือที่เรียกว่าการทดสอบลำไส้รั่ว (Leaky Gut Test) เป็นการประเมินความเสียหายบริเวณเยื่อบุทางเดินอาหาร
การซึมผ่านของลำไส้มีผลมาจากสภาวะสุขภาพหลายอย่าง รวมไปถึงภาวะออทิสติก ภูมิต้านทานผิดปกติ ความไวต่ออาหารและโรคลำไส้อักเสบ 'ลำไส้รั่ว' ส่งผลให้เกิดโรคได้ เนื่องจากสิ่งกีดขวางในลำไส้ที่ก่อกวนทำให้โมเลกุลที่เป็นพิษเข้าสู่กระแสเลือดและเป็นพิษต่อร่างกาย สามารถตรวจวัดการซึมผ่านของลำไส้ได้โดยใช้การทดสอบนี้
การทดสอบการซึมผ่านของลำไส้ ซึ่งประเมินการฟื้นตัวของแลคตูโลสและแมนนิทอลสามารถใช้เพื่อติดตามการเสื่อมสภาพของการซึมผ่านของลำไส้ได้ นอกจากนี้ การทดสอบลำไส้รั่วยังใช้เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของอาหารที่ปราศจากกลูเตนในผู้ป่วยโรคเซลิแอก การทดสอบโดยใช้หลักการที่ว่าโมเลกุลขนาดเล็กจะถูกดูดซึมโดยลำไส้ในขณะที่มีขนาดใหญ่กว่าโมเลกุลเช่นไดแซ็กคาไรด์ไม่ใช่
โมเลกุลน้ำตาลที่ละลายน้ำไม่ได้หลังจากผ่านเข้าไปในลำไส้แล้วจะถูกขับออกทางปัสสาวะ โดยปกิอัตราส่วนของแลคทูโลสต่อแมนนิทอลในปัสสาวะจะต่ำ (เช่น แลคทูโลสไม่ถูกดูดซึม) แมนนิทอลจะถูกดูดซึม เมื่อโครงสร้างของเยื่อบุผิวในลำไส้ถูกทำลาย (มีภาวะลำไส้รั่ว) โมเลกุลน้ำตาลขนาดใหญ่สามารถแทรกซึมเข้าไปในเยื่อเมือกและถูกกู้คืนในปัสสาวะ ในสถานการณ์เช่นนี้ ระดับแลคทูโลสจะเพิ่มขึ้นในปัสสาวะ ดังนั้นอัตราส่วนของแลคทูโลสต่อแมนนิทอลจึงสูง
นอกจากการประเมินภาวะลำไส้รั่วแล้ว การทดสอบนี้ยังสามารถช่วยวินิจฉัยภาวะการดูดซึมอาหารผิดปกติได้อีกด้วย หากสังเกตพบว่าแมนนิทอลในระดับต่ำซึ่งปกติจะแทรกซึมเข้าไปในเยื่อบุผิวของลำไส้ อาจบ่งชี้ถึงการดูดซึมของโมเลกุลขนาดเล็กที่ผิดปกติและการฝ่อของลำไส้
