top of page
24092-01.jpg

ธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด

stem-cell-banking2.jpg

การฝากเซลล์คืออะไร
การฝากเซลล์ หรือที่เรียกว่าสเต็มเซลล์ คือการเก็บรักษาสเต็มเซลล์ไว้ และสามารถย้ายเซลล์จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ ทำได้อย่างปลอดภัยและถูกต้อง

การฝากเซลล์เป็นกระบวนการจัดหาสเต็มเซลล์ที่มีในร่างกายมนุษย์ แปรรูปและจัดเก็บสเต็มเซลล์เพื่อใช้ในอนาคต ในการดูแลรักษาสเต็มเซลล์ จะใช้อุณหภูมิต่ำเพื่อรักษาคุณสมบัติทางชีวภาพของสเต็มเซลล์ ปกป้องเซลล์จากการปนเปื้อนและการเสื่อมสภาพ จำเป็นต้องมีกระบวนการเก็บรักษาที่ได้มาตรฐานและควบคุมคุณภาพสำหรับการฝากเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อรักษาเซลล์ไว้เป็นระยะเวลานานโดยไม่สูญเสียคุณสมบัติ

ประโยชน์ของการฝากเซลล์ต้นกำเนิดคืออะไร
สเต็มเซลล์ของร่างกายสามารถรักษาโรคได้หลากหลาย
โรคและความผิดปกติประมาณ 80 ชนิดที่คุกคามชีวิต ได้รับการรักษาโดยใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากเลือดของสายสะดือ – รวมถึงความผิดปกติของเลือด ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ความผิดปกติทางพันธุกรรม และมะเร็ง
หากคุณต้องการการบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ คุณสามารถหาคู่ที่เหมาะสมได้ทันทีผ่านบริการธนาคารสเต็มเซลล์ ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดเวลาและเงินได้มาก
สเต็มเซลล์ของตัวอ่อนที่ได้จากทารกคนหนึ่งสามารถใช้รักษาทารกหรือผู้ใหญ่อีกคนได้
แม้กระทั่งอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังก็สามารถรักษาได้ด้วยสเต็มเซลล์ และสามารถสร้างเนื้อเยื่อหัวใจขึ้นมาใหม่ให้คล้ายกับเนื้อเยื่อของร่างกายได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงกับเนื้อเยื่อที่ไม่ตรงกัน

ทำไมถึงต้องเก็บรักษาสเต็มเซลล์
การเก็บรักษาสเต็มเซลล์จากเลือด รกและสายสะดือของบุตรทำให้บิดามารดาสามารถเก็บรักษาเซลล์ต้นกำเนิดอันมีค่าที่เป็นหนึ่งเดียวกับทารกและมีรหัสพันธุกรรมใกล้เคียงกับคนในครอบครัว ไว้สำหรับการรักษาโดยเทคโนโลยีใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ต้นกำเนิดในอนาคต เช่นนำไปรักษาโรคหัวใจ หรือโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ สเต็มเซลล์ที่ถูกเก็บรักษา ยังเปรียบเสมือนอวัยวะสำรองสำหรับการรักษาโรคมะเร็ง หรือโรคเลือดที่สามารถรักษาให้หายได้โดยใช้สเต็มเซลล์

ใครที่สามารถใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากลูกของคุณได้บ้าง?
กรณีของสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ และจากเยื่อหุ้มรก ถือเป็นเซลล์ต้นกำเนิดชนิด (Mesenchymal Stem cell หรือ MSCs) ที่สามารถนำไปใช้ได้กับทุกคนในครอบครัว โดยไม่ต้องตรวจความเข้ากันของเนื้อเยื่อที่เรียกว่า HLA Matching และด้วยคุณสมบัติและประสิทธิภาพของสเต็มเซลล์ชนิดนี้ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย และลดการอักเสบของเซลล์ได้เป็นอย่างดี จึงมีงานวิจัยที่มุ่งเน้นการนำสเต็มเซลล์ชนิด MSCs มาใช้ในการฟื้นฟูความเสื่อมที่เกิดขึ้นตามวัย Rejuvenation และ ชะลอวัย (Anti-Aging)

ทำไมถึงต้องเลือกเก็บสเต็มเซลล์กับหิมวันต์ตา
ยืนยันถึงความน่าเชื่อถือด้วยการดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ยืนยันว่าสเต็มเซลล์ที่จะถูกนำมาใช้ในอนาคต จะเป็นเซลล์ที่ได้รับการจัดเก็บและเพาะเลี้ยงจากลูกน้อยหรือตนเอง 100%
ยืนยันว่า สเต็มเซลล์ที่จัดเก็บนั้นจะไม่ถูกนำไปใช้กับผู้อื่น
ยืนยันว่าสเต็มเซลล์ที่จัดเก็บนั้นจะไม่ถูกนำไปนำไปใช้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์อื่น ๆ
ยืนยันการจัดเก็บและเพาะเลี้ยงเซลล์ที่มีมาตราฐานตามหลักสากล

มาตรฐานการเพาะเลี้ยงเซลล์ของหิมวันต์ตาปฏิบัติตามมาตรฐาน

ISO 15189:2012 มาตรฐานการรับรองสำหรับมาตรฐานห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ระดับสากลจาก สหภาพยุโรป ที่รับรองโดยกรมวิทยาศาสตร์การแทพย์ กระทรวงสาธารณสุขไทย
ISO 15190:2003 มาตรฐานการรับรองสำหรับมาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ รับรองโดยกรมวิทยาศาสตร์การแทพย์ กระทรวงสาธารณสุขไทย
AABB (American Association of Blood Banks) มาตรฐานของสมาคมธนาคารเลือดแห่งอเมริกาในการเก็บรักษาเซลล์ต้นกำเนิดของเลือด ได้แก่ เซลล์ต้นกำเนิดเลือดจากสายสะดือ

สิทธิประโยชน์ที่ได้จากการฝากสเต็มเซลล์กับหิมวันต์ตา

1. การประเมินก่อนการฝาก หากการประเมินผลแสดงให้เห็นว่าเซลล์จะไม่เกิดประโยชน์คุ้มค่าต่อการเก็บรักษา บริษัทจะแจ้งให้ผู้ฝากทราบและยินดีมอบค่าธรรมเนียมบริการคืนให้ผู้ฝากทั้งหมดตามที่ชำระไว้แล้วภายหลังหักค่าบริการทางการแพทย์
2. ผลการทดสอบ บริษัทจะดำเนินการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าตัวอย่างเลือด/เนื้อเยื่อสายสะดือ ที่เก็บได้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานและสามารถนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษา
3. การเก็บรักษาและการรับประกันคุณภาพ 10 ปี บริษัทรับประกันคุณภาพของสเต็มเซลล์ที่ถูกจัดเก็บแล้วยาวนาน 10 ปี
4. รับประกัน บริษัทยินดีชดเชยเงินค่าธรรมเนียมบริการที่ผู้ฝากชำระให้กับบริษัท หากสเต็มเซลล์ที่ฝากไว้ไม่สามารถใช้ได้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม และบริษัทไม่สามารถหาทดแทนให้ได้

ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมในการเก็บสเต็มเซลล์กับหิมวันต์ตา

ขั้นตอนที่ 1 แจ้งความจํานงและทําสัญญา เพื่อฝากเก็บสเต็มเซลล์กับเจ้าหน้าที่หรือทีมงานของ “บริษัท หิมวันต์ จำกัด”
ขั้นตอนที่ 2 “บริษัท หิมวันต์ จํากัด” เข้าเก็บรกและสายสะดือในวันคลอด และเก็บเลือด ของคุณแม่ตามวันเวลาที่นัดหมาย ภายใต้กระบวนการที่มีมาตรฐาน ระดับสูงในทุกขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 3 ในวันคลอด พยาบาลจะเจาะเก็บเลือดของคุณแม่ เพื่อนําไปตรวจสุขภาพของคุณแม่ ตามมาตรฐานความปลอดภัย ดังนี้
     1. การติดเชื้อซิฟิลิส
     2. การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
     3. การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
     4. อักเสบซี การตรวจเชื้อไวรัส เอช ไอ วี
     5. การตรวจเชื้อไชโตเมกะโล ไวรัส
     6. การตรวจเชื้อไวรัส เอช ไอ วี 1 และ 2 ด้วยวิธี NAT
ขั้นตอนที่ 4 รกและสายสะดือ ถูกนําส่งเข้าสู่ห้อง ปฏิบัติการเพื่อทำการคัดแยกสเต็มเซลล์โดยผ่านการควบคุมมาตรฐานการขนส่ง ที่อุณหภูมิ 2-8 องศา เซลเซียส ภายใน 24 ชม.
ขั้นตอนที่ 5 รกและสายสะดือจะถูกนำไปคัดแยก และเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์  หลังจากนั้นจะถูกนำไปจัดเก็บรักษาตามขั้นตอนภายใต้มาตรฐาน GMP cell culture โดยเก็บรักษาสเต็มเซลล์ด้วยระบบไอระเหย ไนโตรเจน ที่อุณหภูมิ – 196 C
ขั้นตอนที่ 6 รับใบรับรองการเก็บ Stem Cell พร้อมผลตรวจจากห้องปฏิบัติการหลังจากการเก็บ Stem Cell เสร็จสมบูรณ์
ขั้นตอนที่ 7 ติดต่อ หิมวันต์ตา เมื่อต้องการใช้สเต็มเซลล์

bottom of page